Mercedes-Benz S500 Coupe AMG เปิดตัวในไทยเริ่มต้น 15 ล้านบาท

           ล่าสุด Mercedes-Benz ได้เผยโฉมรถยนต์ Dream Car อย่าง Mercedes-Benz S500 Coupe AMG ที่ถูกออกแบบระดับ พรีเมี่ยม  และดีไซน์สปอร์ตสุดหรู พร้อมทั้งแฝงไว้ ซึ่งความทรงพลังเพื่อตอบสนองความต้องและตอบโจทย์ของลูกค้าอย่างลงตัว  นับเป็นรถยนต์ในแบบ Luxury Sport Car ที่ยกระดับความหรูหราเกินบรรยาย

           ภายนอก  S500 Coupe AMG  มาพร้อมกับ ชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG (กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง), กระจกหน้าต่างสีเขียว กรองแสงรอบคัน พร้อมกระจกนิรภัยด้านหลัง, ปลายท่อไอเสียคู่,  ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน,  สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บนคาลิปเปอร์เบรก,  ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ลาย 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว, หลังคาพาโนรามิคซันรูฟแบบ MAGIC SKY CONTROL ขนาดใหญ่ ซึ่งพาโนรามิคซันรูฟนี้ มีความยาวถึง 2 ใน 3 ของความยาวหลังคา

           เสริมไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ (Swarovski crystals) จำนวน 47 ชิ้น ประกอบด้วยไฟ daytime running lamps ที่ส่องสว่างด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ 17 ชิ้น และไฟเลี้ยวที่ตกแต่งด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ 30 ชิ้น

           ภายในห้องโดยสาร  S500 Coupe AMG  มาพร้อมเบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa แบบ Exclusive package ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design,  ผ้าหลังคาและแผงบังแดดหน้าหุ้มด้วย DINAMICA microfibre, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต, ระบบวิทยุแบบ COMMAND online, หน้าจอแบบความละเอียดสูงขนาด 31.2 เซนติเมตร (12.3 นิ้ว) พร้อมระบบ SPLITVIEW ที่ผู้โดยสารสามารถเลือกดูภาพเคลื่อนไหวได้แม้ในขณะรถเคลื่อนที่, ระบบเครื่องเสียงแบบ Burmester® high-end 3D surround sound system, ลำโพงจำนวน 24 ตัวแบบ high-performance speakers + subwoofer bass box พร้อม amplifier 24 ทาง ที่ให้กำลังขับสูงสุด 1,520 วัตต์

           เบาะแบบ Seat Comfort package สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมระบบนวดแบบ ENERGIZING massage function, ระบบ driving dynamics control function, ระบบ Climatised front seats รวมถึงระบบฟังก์ชั่นอุ่นที่นั่ง, ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่มีให้เลือกถึง 7 สี ความเข้มอ่อนของแสงได้ 5 ระดับ

พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่น่าสนใจ

– ระบบ “Mercedes-Benz Intelligent Drive”
– ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE system และ PRE-SAFE impulse system
– โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Program – ESP)
– ฟังก์ชั่นช่วยการทรงตัวขณะเร่งแซงทางโค้ง (Curve Dynamic Assist)
– ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist)
– ระบบช่วยเบรก (Brake Assist – BAS)
– ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-start Assist
– ไฟเบรกกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน (Adaptive Brake Lights)
– ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS)
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Acceleration skid control –ASR)
– ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ (ATTENTION ASSIST)
– ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)
– ระบบ MAGIC VISION CONTROL ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติด้วยระบบฉีดน้ำกระจกหน้าจากก้านปัดน้ำฝนที่น้ำจะฉีดไปที่บริเวณด้านหน้าของใบปัดขณะทำการปัด
– ระบบ Night View Assist Plus โดยการใช้แสงอินฟราเรด และกล้องอินฟราเรดระยะใกล้และไกล

           ส่วนเครื่องยนต์ S500 Coupe AMG มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V8 ทำมุม 90 องศา เทอร์โบคู่ ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลัง แบบ 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 4,663 ซีซี ให้กำลังสู.สุด 455 แรงม้า ที่ 5,250-5,500 รอบ/นาที แรงบิด 700 นิวตันเมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

           Mercedes-Benz S500 Coupe AMG เปิดตัวในไทยเคาะราคาที่ 15,490,000 บาท สำหรับรุ่น S500 Coupe’ AMG Premium เปิดสั่งจองแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

2016 BMW 7-Series เผยโฉมแล้ว

             หลังจากที่มีการปล่อยทีเซอร์ให้ได้เชยชมกันก็มากมายแล้ว  ล่าสุด BMW ก็ได้ฤกษ์เผยโฉมสุดยอดอัครยนตกรรม 2016 BMW 7-Series  สุดหรูรุ่นใหม่ออกมาแล้ว

             ซีรีส์ 7 รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบด้วยการผสมผสาน “สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น” เข้ากับ “ความสะดวกสบายในการขับขี่ทางไกล” รูปลักษณ์ภายนอกมีความทันสมัยยิ่งขึ้น หลังจากมีเสียงวิจารณ์หนาหูว่าเน้นสไตล์แบบอนุรักษ์นิยมมากเกินไปในอดีต

             ในส่วนของตัวถังทำจากวัสดุพลาสติกเสริมกับคาร์บอนไฟเบอร์ หรือ Carbon Core ด้านหน้ายังคงคุ้นตาด้วยกระจังหน้าคู่ กรอบไฟ LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานและมีไฟเลเซอร์เป็นอ็อปชันพิเศษ ขณะที่ไฟตัดหมอกก็เป็น LED เช่นกัน รอบคันตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม ไฟท้ายเป็นรูปทรงตัว L ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ 17 นิ้วไปจนถึง 21 นิ้ว

             ภายในห้องโดยสารมีทั้งหนัง Dakota และ Nappa ให้เลือกสรร ตกแต่งสลับกับไม้และอลูมิเนียม หัวเกียร์เป็นเมทัลลิก มีระบบ iDrive และแผงควบคุมระบบสัมผัส ไฮไลท์อยู่ที่เทคโนโลยีสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวมือ  ทั้งระบบควบคุมอากาศแบบแยกส่วนสี่โซน เบาะที่นั่งแบบมีระบายอากาศและระบบนวดตัว นอกจากนี้ยังมีโต๊ะแบบพับเก็บได้ ตลอดจนหน้าจอ Touch Command ขนาดเจ็ดนิ้ว ขณะที่แพ็คเกจ Sky Lounge มอบหลังคาพาโนรามิกและเครื่องเสียงชั้นดี Bowers & Wilkins Diamond

             ส่วนของเครื่องยนต์  รุ่น 750i xDrive / 750Li xDrive ใช้บล็อก V8 TwinPower Turbo พละกำลัง 450 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.4 วินาที ท็อปสปีดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม.

             ด้าน 740i / 740Li เครื่องยนต์ 6 สูบขนาด 3.0 ลิตร TwinPower Turbo พละกำลัง 326 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 5.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

             สำหรับ 730d / 730Ld / 730d xDrive / 730Ld xDrive ใช้เครื่องดีเซล 6 สูบ TwinPower Turbo รีดพลัง 265 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

MAZDA MX-5 โชว์เหนือ! กระจายน้ำหนักขั้นเทพ

               เคยมีรูปที่ปล่อยออกมาแล้วสำหรับรูปที่ยก Mazda MX-5 ไว้บนแท่นเหล็กสามเหลี่ยม ซึ่งเราอาจเข้าใจว่ามันเป็นภาพตัดต่อแต่มันไม่ใช่  นี่คือของจริงเป็นการโชว์การกระจายน้ำหนักหน้า:หลังแบบ 50:50 ไม่ขาดไม่เกิน ที่น่าสนใจอย่างมาก

               Mazda MX-5 ใช้เครื่องยนต์  Skyactiv 4 สูบความจุ 2.0 ลิตรให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า แรงบิตสูงสุดที่ 200 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีตและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีตให้เลือก

               เดฟ โคลแมน ผู้จัดการโครงการพัฒนา Mazda MX-5 กล่าวว่า การกระจายน้ำหนักหน้า:หลังแบบ 50:50 ทำให้สามารถควบคุมรถได้เชื่องมือมากขึ้น น้ำหนักตัวรถถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการพัฒนารถสปอร์ตก็ว่าได้ “เมื่อคุณพยายามพัฒนารถที่มีสมรรถนะดีเยี่ยม คุณจะต้องใส่เครื่องยนต์อันทรงพลังและล้อขนาดใหญ่ หรือไม่เช่นนั้น คุณก็ต้องลดน้ำหนักตัวรถลงเพื่อเพิ่มการตอบสนองต่อการขับขี่”

Mazda เรียกคืนรถกว่า 1.6 ล้านคัน เหตุเพราะถุงลมนิรภัยมีปัญหา

          Mazda ประกาศเรียกคืนรถยนต์จำนวน 1.6 คัน  เนื่องจากถุงลมนิรภัยไม่ได้มาตรฐานที่ผลิตโดย บริษัททาคาตะ ในญี่ปุ่น จากกรณีดังกล่าว  Mazda ต้องเรียกคืนรถยนต์กว่า 2.2 ล้านคันทั่วโลก

          ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นประกาศเรียกคืนรถยนต์กว่า 1,600,000 คัน  เนื่องจากทำงานผิดพลาดของถุงลมนิรภัย  ที่ผลิตโดยบริษัทคาคาตะ  ผู้ผลิตถุงลมนิรภัยรายใหญ่ของญี่ปุ่น  ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า  สารเคมีที่ใช้ในถุงลมนิรภัยดังกล่าวเกิดทำงานผิดพลาด  จนทำให้การพองออกของถุงลมแรงเกินไปจนกลายเป็นแรงระเบิด  อาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

          Mazda  ยังได้เรียกคืนรถยนต์กว่า 2,200,000 คัน ทั่วโลกที่ผลิตระหว่างปี 2003-2008  โดยมีการรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตจากการทำงานผิดพลาดของถุงลมนิรภัยแล้ว 6 ราย

          และการเรียกคืนรถยนต์ของ Mazda ครั้งนี้ทำให้หุ้นร่วงไปถึงร้อยละ 1.05 เหลือ 2,689 เยน ส่วนหุ้นของคาคาตะ ก็ร่วงลงไปร้อยละ 1.75 เหลือ 1,346 เยน

BMW 435i ZHP Coupe 2016 รุ่น Limited Edition

              ล่าสุด ทางค่ายรถหรูจากเยอรมันได้เผยโฉม BMW 435i ZHP Coupe 2016 รุ่น Limited Edition ที่ตกแต่งพิเศษจากโรงงานชิ้นส่วนของ BMW M Performance Accessories

              BMW 435i ZHP Coupe มาพร้อมเครื่องยนต์ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร ได้รับการปรับแต่งท่อร่วมไอดีและกล่อง ICU ให้กำลังสูงสุด 335 แรงม้า แรงบิตที่ 449 นิวตัน-เมตร และยังเพิ่มขึ้นที่ 35 แรงม้าและ 43 นิวตัน-เมตรเมื่อเทียบกับรุ่นสแตนดาร์ด พร้อมเฟืองท้ายของ 435i ZHP Coupe แบบ Limited Edition อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วกว่าเดิม 0.2 วินาที

              ส่วนตัวถังมีทั้งขาว Alpine White และดำ Black Sapphire Metallic ภายนอกตกแต่งด้วยลิ้นสปอยเลอร์หน้า สปอยเลอร์หลังและแผงดิฟฟิวเซอร์คาร์บอนไฟเบอร์ กระจังหน้าสีดำ และยังเสริมด้วยท่อไอเสียสแตนเลสแบบสปอร์ต พ่วงด้วยชุด Track Handling Package ที่มีช่วงล่าง Adaptive M Suspension ระบบพวงมาลัย Variable Sport Steering เบรก M Sport และล้ออัลลอย Orbit Grey V-Spoke ขนาด 18 นิ้ว

              และที่สำคัญ BMW 435i ZHP Coupe 2016 ผลิตเพียง 100 คันเท่านั้น แต่ยังไม่มีการประกาศราคาแต่งอย่างใด

Lamborghini Asterion โผล่ในงานประกวดที่อิตาลี

          Lamborghini Asterion  โผล่โชว์ตัวจริงในงานประกวดรถคลาสสิคและวินเทจคาร์ ที่ประเทศอิตาลี

          หลังจากที่มีการเปิดตัวเจ้า Lamborghini Asterion ครั้งแรกได้ยลโฉมกันแล้วที่ในงาน  ปารีส มอเตอร์ โชว์ 2014  ค่ายรถซิ่งกระทิงดุก็เอาตัวเป็น ๆ Lamborghini Asterion มาให้สาวกรถซิ่งได้ยลโฉมกันแบบชิดใกล้  ได้ยินเสียงคำรามกระหึ่มเลยทีเดียวที่ในงาน ประกวดรถคลาสสิคและวินเทจคาร์ ที่ประเทศอิตาลี

          ด้วยขุมพลัง V10 ขนาด 5,200 ซีซี กำลัง 610 แรงม้า ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าอีกถึง 3 ตัว ให้ 300 แรงม้า รวมม้าได้แรงจัดถึงใจที่ 910 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3 นาที ทำความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองพลังงานก็น่าพอใจที่ 23 กม./ลิตร และหากขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว สามารถขับได้ไกล 50 กิโลเมตร ที่ความเร็วสูงสุด 125 กม./ชม.

          แต่ถึงอย่างไรก็ตาม  สาวกค่ายกระทิงดุก็คงต้องรอกันต่อไป  เพราะทาง Lamborghini ประกาศว่ายังไม่มีแผนกำหนดการนำเจ้า Lamborghini Asterion เข้าไลน์ผลิด

Ford GT 2017  แรงทะลุ 600 แรงม้า

Ford GT 2017  แรงจัดทะลุ 600 แรงม้า  สร้างความหวือหวาให้วงการสปอร์ตคาร์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว  ด้วยค่าตัวราว 400,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 12 ล้านบาท                ล่าสุด (20 พฤษภาคม 2558) Ford ได้ปล่อยภาพ Ford GT 2017 ตัวล่าสุดออกมาให้เหล่าสาวกสปอร์ตคาร์ได้ยลโฉมกันแล้ว  โดย Ford ได้เผยว่า ขุมพลังอีโคบูสต์ ทวินเทอร์โบ บล็อก V6 ความจุกระบอกสูบ 3.5 ลิตรของฟอร์ด จีทีจะมีพละกำลังอย่างน้อย 600 แรงม้า โดยใช้ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักที่ 92.6 มม. x 86.7 มม.  ส่วนตัวถังเป็นคาร์บอนไฟเบอร์                Ford ยังเผยอีกว่า  จะเริ่มจำหน่ายในช่วงปลายปี 2016  ในราคาที่พุ่งแรงไม่แพ้กันเริ่มต้นที่ 400,000 เหรียญสหรัฐฯ  และจะผลิดเพียงปีละ 250 คันเท่านั้น

BMW M6 เผยชุดแต่ง COMPETITION PACKAGE ใหม่

               ค่ายรถหรูจากเยอรมัน BMW  เผยชุดแต่ง Competition Package  ใหม่ล่าสุด  ให้กับรถสไตล์สปอร์ตสุดซิ่ง  BMW M6 ที่มีการปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่ให้แรงกว่าเดิม  พร้อมช่วงล่างที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ

              ชุดเสริมสรรถนะ Competition Package  ถูกปล่อยออกมาตั้งแต่ปี 2013 แล้ว  ซึ่งสามารถติดตั้งกับรถตระกูล M6 ได้ทั้งหมด  เพื่อเพิ่มสรรถนะให้การขับขี่ที่ดีขึ้นทั้งเรื่องของความแรงและการยึดเกาะถนน

              ส่วน Competition Package ชุดใหม่นี้  มีกำลังแรงม้าถึง 600 แรงม้า (HP)  สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.9 วินาที  ซึ่งผู้ใช้ต้องติดตั้ง M Driver’s Package เพิ่มเพื่อปลดล็อกความเร็วสูงสุดให้กลายเป็น 305 กม./ชม.

BMW เผยโฉม 320D EfficientDynamics

               ค่ายรถหรูจากเยอรมัน BMW ปล่อยของออกมาอีกแล้ว  กับขีดสุดของความประหยัดในตระกูล 3-Series

               การพัฒนา 320D EfficientDynamics  ถูกพัฒนาขึ้นมาจากพื้นฐาน 320D รุ่นปกติ  เพียงแต่หากมีการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อลดอัตรการสิ้นเปลืองลง  ไม่ว่าจะเป็นการลดระดับความสูงตัวถังลง 13 มิลลิเมตร เพื่อให้อากาศไหลผ่านตัวรถได้สะดวกยิ่งขึ้น  กระจังหน้าสามารถเปิด-ปิดได้  และยางรถที่มีแรงเสียดทานต่ำ

               ส่วนของตัวเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (HP) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,250 รอบ/นาที  พร้อมระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติขณะติดไฟแดง และเบรกที่สามารถปั่นกระแสไฟเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมไฟชิฟท์ไลท์สำหรับแนะนำรอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสม ขณะที่เกียร์อัตโนมัติแบบ 8 สปีดยังคงมีให้เลือกเช่นกัน

BMW X2 สปอร์ตครอสโอเวอร์ 5 ประตู เปิดตัว 2017

               BMW  ค่ายรถหรูจากเยอรมันเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่  BMW  สปอร์ตโอเวอร์  5  ประตู  ในกลางปี 2017 นี้!!

               หลังจากที่ปล่อยรถ  SUV ในซีรี่ย์ X1 และ X3-X6 แล้ว  ทางค่ายรถหรูจากเยอร์มันก็กำลังเดินหน้าเติมเต็ม X2 ช่องโหว่ที่เว้นว่างไว้   ข่าวจากวงในออกมาบอกว่า  รุ่นต้นแบบนี้จะพัฒนาเสร็จและพร้อมจำหน่ายในช่วงกลางปี 2017

               รูปทรงของ X2 ไม่น่าจะแตกต่างจากรุ่น X4 มากนัก  และด้านในห้องโดยสารน่าจะมีคล้ายคลึงกับ X1

               BMW X2 เป็นสปอร์ตครอสโอเวอร์ 5 ประตู ขนาดกะทัดรัด ใช้เครื่องยนต์แพลตฟอร์ม UKL ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรถเล็กของ  BMW  เช่นเดียวกับที่ใช้ใน BMW X1 รวมถึงตระกูล BMW  ซีรีส์ 2 อย่าง 2 ซีรีส์ แอคทีฟ ทัวเรอร์ (2 Series Active Tourer) และ 2 ซีรีส์ แกรนด์ ทัวเรอร์ (2 Series Gran Tourer) เลือกระบบขับเคลื่อนได้สองแบบ ทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ มีเครื่องยนตร์เบนซินและดีเซล 3 และ 4 สูบ นอกจากนี้ BMW ยังมีแผนปล่อย BMW X2 พร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบใหม่ B48 ที่ให้กำลังถึง 300 แรงม้า ออกมาในปี 2018 อีกด้วย

FERRARI 488 GTB                Ferrari 488 GTB  ขุมพลัง  V8 ทวินเทอร์โบ 670 แรงม้า!!                Ferrari เผยโฉมซุปเปอร์คาร์  Ferrari 488 GTB ม้าลำพองสายพันธุ์ล่าสุดที่จะมาแทนที่ Ferrari 458 Italia  โดยการออกแบบของ Ferrari 488 GTB นั้นต่อยอดมาจากเจ้า 458 อย่างชัดเจน ทั้งไฟหน้าทรงเรียวยาวสูง ไฟท้ายทรงกลม เบาะนั่งลายใหม่  เพิ่มลายโฉบเฉี่ยวที่ด้านข้างและกระโปรงหน้า  ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ดูอัลคลัตช์แบบ 7 สปีดที่มีระบบจัดการแรงบิดอันทรงประสิทธิภาพ                ขุมพลังขับเคลื่อนบล็อก V8 ความจุกระบอกสูบ 3.9 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศทวินเทอร์โบ รีดพละกำลัง 670 แรงม้าที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิด 760 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบ/นาที เพียงพอต่อการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาแค่ 3 วินาทีและ 0-200 กม./ชม. เพียง 8.3 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดทะยานไปได้ถึง 330 กม./ชม.